English
Thai
Home Product Service Order Article News Rewards
Home Product Service Order Article News Rewards
About The Refresher Thai Join Us Contact Us
Feliz Coffee

ก่อนจะเป็น coffee lover หรือนักดื่มกาแฟที่เสพอรรถรสของกาแฟอย่างมีความสุข เรามีเกร็ดความรู้มาแบ่งปันกันในบางแง่มุม ถือว่าอ่านกันพอเพลิน ๆ


ศัพท์น่ารู้เกี่ยวกับกาแฟ
body : หมายถึงความรู้สึกเต็มอิ่ม เต็มปากเต็มคำ ไล่จากอ่อนไปเข้มได้เป็น watery (จางเหมือนน้ำ), thin, light, medium, full
buttery : ข้นเหมือนเนย
syrupy : ข้น เหมือนน้ำเชื่อม
strong : หมายถึงดีกรีความเข้มของรสชาติกาแฟ
aroma : หมายถึงกลิ่นหอมของกาแฟ เช่น floral, fruity, chocolaty
caramelly :กลิ่นเหมือนลูกกวาด หรือน้ำเชื่อม
carbony : กลิ่นเหมือนถ่าน มักพบในกาแฟที่คั่วนานๆ
exotic : กลิ่นหอมเย้ายวน เช่น floral หรือ berry ซึ่งเป็นกลิ่นที่ต่างจากกาแฟปกติ
roast : หมายถึงการคั่วกาแฟ ซึ่งจะมีความเข้มข้นตั้งแต่ระดับ light roasted, medium roasted, dark roasted, darkest roasted
mellow : รสกลมกล่อมพอดีของกาแฟที่มี acidity ระดับต่ำถึงกลาง
bland : หมายถึงรสจืดของกาแฟ เกิดเพราะเมล็ดกาแฟที่เอามชงยังไม่ได้อายุเก็บเกี่ยว
acidity : หมายถึงรสเปรี้ยวของกาแฟ ซึ่งเป็นรสเฉพาะของกาแฟเท่านั้น จะต่างจากรสเปรี้ยวของมะนาว (sour)
briny : รสเค็ม มักเกิดจากการต้มกาแฟนานเกินไป
tangy : หมายถึงรสเปรี้ยวแหลมของกาแฟ
winy : ความรู้สึกที่เปรียบได้กับการดื่มไวน์แดงชั้นดี
solo : กาแฟเอสเพรสโซ 1 ช็อต
shot : หมายถึงปริมาณกาแฟ 1 shot เท่ากับ 1 ออนซ์
latte' art : หมายถึงศิลปะการสร้างสรรค์ฟองนม
barista : หมายถึงผู้ชงกาแฟหรือผู้ปรุงกาแฟ
blend : หมายถึงการนำกาแฟจากหลายสายพันธ์ หลายแหล่งเพาะปลูก (origin) มา blend เข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้รสชาติตามต้องการ

การคั่วเมล็ดกาแฟ คือการให้ความร้อนกับเมล็ดกาแฟดิบจนกระทั่งเมล็ดกาแฟสุกพร้อมนำมาชงดื่มได้เป็นกระบวนการที่ดึงหัวใจสำคัญของเมล็ดกาแฟออกมา ระดับการคั่วที่ดีที่สุดคือ ระดับที่สามารถแสดงลักษณะกาแฟจากแหล่งเพาะปลูกนั้นๆ (origin character) ได้ชัดเจนที่สุด

   
กาแฟ กาแฟ
   

การคั่วเมล็ดกาแฟ Light Roast (city roast) เป็นการคั่วแบบอ่อนที่สุด จะได้เมล็ดกาแฟสีน้ำตาลอ่อนผิวเมล็ดแห้ง acidity ยังสูงอยู่ เกิดการ caramelize ไปแล้วประมาณ 50% รสชาติกาแฟยังไม่ขมมากนัก เป็นระดับการคั่วที่แสดงลักษณะเฉพาะของสายพันธ์กาแฟ (origin character) ได้ดีที่สุด การคั่วระดับนี้ กาแฟจะมีรสเปรี้ยวแหลมของความเป็นกรดจึงไม่เหมาะแก่การนำมาใช้ทำเป็นเครื่องดื่ม Espresso

 

กาแฟ

ถัดไปเป็นการคั่วระดับกลาง การคั่วระดับนี้จะได้เมล็ดกาแฟที่มีสีเรียกว่า Cinnamon Roast Medium Roast (full city roast) เป็นการคั่วในระดับปานกลางที่ให้ความเข้มมากกว่าแบบแรก บอดี้กาแฟเต็มขึ้น acidity ลดลง โดยจะมีรสชาติกลมกล่อม อโรมามีกลิ่นหอมละมุนละไม ซึ่งผู้ค้ากาแฟทั่วไปนิยมการคั่วในระดับนี้ และเป็นระดับการคั่วที่เหมาะที่จะนำไปทำเป็นเครื่องดื่ม Espresso

 

Dark Roast (viennist roast) เป็นการคั่วในระดับเข้มการคั่วเมล็ดกาแฟในขั้นนี้ จะได้เมล็ดกาแฟสีเข้มมากจนเกือบดำและให้กลิ่นกาแฟอย่างเต็มที่กาแฟคั่วเข้มจะมีน้ำมันซึมออกมาเคลือบเมล็ดจนมันวาว acidity ลดลงอีก body กาแฟลดลงด้วย เป็นระดับการคั่วที่แสดงลักษณะการคั่ว (roast character) มากกว่า origin character เหมาะกับการชงเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของนม เช่น คาปูชิโน ลาเต้


Italian Roast, French Roast, Spanish Roast
เป็นการคั่วที่เข้มมากจนเกือบจะไหม้ body กาแฟเจือจาง
ให้กลิ่นควันแทนกลิ่นหอมของกาแฟ คาเฟอีนเหลือน้อยลง
กาแฟ

การบดเมล็ดกาแฟ

การบดเมล็ดกาแฟ มีบทบาทที่สำคัญในการกำหนดรสชาติ ผงกาแฟที่บดละเอียดมากเกินไปจะทำให้้น้ำสัมผัสกับผิวเมล็ดกาแฟมาก กาแฟที่ได้ออกมาจะมีรสขมมาก สำหรับผงกาแฟที่หยาบจะทำให้น้ำไหลผ่านเมล็ดกาแฟเร็วเกินไป กาแฟที่ได้ออกมาจะมีรสจืด ทั้งนี้การบดกาแฟจะต้องดูว่าเราจะนำกาแฟที่บดแล้วไปใช้กับเครื่องชงกาแฟชนิดไหนด้วย อย่างเช่น เครื่องชงกาแฟแบบ espresso machine จะใช้ระดับการบดที่ละเอียด เครื่องชงกาแฟแบบ drip หรือแบบที่มีตัวกรองเป็นกรวยกระดาษจะใช้การบดในระดับกลาง และเครื่องชงกาแฟแบบ french press หรือแบบที่ใช้ลูกสูบกดผงกาแฟลงไปไว้ข้างล่างจะใช้การบดในลักษณะค่อนข้างหยาบ เป็นต้น

 

กาแฟ กาแฟ กาแฟ กาแฟ


เมื่อคั่วและบดกาแฟได้ระดับที่เหมาะสมกับการชงเครื่องดื่มแล้ว เรามาทำความรู้จักกับประเภทของเครื่องชงและประเภทเครื่องดื่มกันดีกว่า

เริ่มจากการชงกาแฟแบบที่ไม่ค่อยเห็นกันบ่อยนัก ได้แก่การต้มผงกาแฟบดละเอียดเข้ากับน้ำในหม้อคอคอด ซึ่งเรียกว่า ไอบริก (ibrik)

กาแฟ ในภาษาอารบิก, เซสฟ์ (cezve) ในภาษาตุรกี, และเซสวา (dzezva) ในภาษาเซอร์โบ-โครเอเชีย ทำจากทองเหลืองหรือทองแดงมีด้ามจับยาวและปล่อยให้เดือดเล็กน้อยบางครั้งก็จะเติมน้ำตาลเข้าไปในหม้อด้วยเพื่อเพิ่มรสหวาน และยังเพิ่มรสและกลิ่นด้วยกระวาน (cardamom) ผลที่ได้คือกาแฟเข้มข้นถ้วยเล็กๆ มีฟองอยู่ข้างบน และกากกาแฟกองหนาเหมือนโคลนอยู่ที่ก้น วิธีการชงแบบนี้เป็นที่นิยมกันในประเทศแถบอาหรับ ซึ่งยังคงใช้อยู่ในตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ ตุรกี และกรีซ


กรรมวิธีการชงต่อมาเรียกว่าการชงแบบ French Press เป็นวิธีการชงที่มีต้นกำเนิดจากประเทศฝรั่งเศส การชงแบบนี้เราเห็นได้บ่อยกว่าการชงแบบแรก วิธีชงก็ง่ายแค่เลือกกาแฟที่ต้องการใส่ลงในแก้วชง เทน้ำร้อนใส่ในแก้วที่มีก้าน รอประมาณ 4-5 นาทีก็กดก้านดันกากกาแฟให้ไปอยู่ก้นแก้ว รินกาแฟเติมนมครีมหรือน้ำตาลตามชอบ


วิธีนี้เป็นการชงที่สะดวกสบาย ง่าย ไม่เปลืองไฟฟ้า แต่เหมาะสำหรับการดื่มแค่ 1-2 คนเท่านั้น

กาแฟ กาแฟ
ต่อไปเรียกว่าการชงกาแฟแบบ Drip


กาแฟ

ซึ่งแยกได้เป็นแบบที่ใช้เครื่องกับแบบที่ไม่ใช้เครื่อง วิธีนี้จะนำกาแฟที่คั่วบดเรียบร้อยแล้วมาเทใส่กระดาษกรองแล้วปล่อยให้น้ำร้อนไหลผ่านกาแฟแล้วค่อยๆ หยดลงมาสู่โถรับกาแฟด้านล่าง จากนั้นจึงนำไปเสิร์ฟ


วิธีนี้จะเห็นได้บ่อยตามร้านอาหารที่มีเมนูกาแฟร้อน หรือเวลาไปสัมมนาตามโรงแรม ข้อดีคือสะดวกเหมาะสำหรับการเสิร์ฟกับปริมาณคนมากๆ แต่ก็มีข้อเสียคือ จะได้กาแฟที่มีความเข้มน้อย กลิ่นและความมันจะถูกกระดาษกรองดูดซึมไว้จนเสียรสชาติไป

กาแฟ


และวิธีสุดท้าย
เป็นการชงกาแฟที่ให้รสชาติถูกใจคอกาแฟมากที่สุดคือ การชงกาแฟโดยใช้เครื่อง Espresso Machine

กาแฟ


วิธีนี้เป็นวิธีที่ร้านกาแฟนิยมใช้มากที่สุด เป็นการใช้ไอน้ำอัดผ่านเมล็ดกาแฟที่คั่วบดแล้วอย่างรวดเร็ว ทำให้ได้กาแฟเอสเพรสโซ่สีทองที่ส่งกลิ่นหอมไปทั่วร้าน เครื่องชงกาแฟแบบนี้มักมาพร้อมกับที่อุ่นนมและทำฟองนม ข้อดีคือถ่ายทอดรสชาติและจุดเด่นของกาแฟแต่ละชนิดออกมาได้ดีที่สุด แต่ราคาก็ค่อนข้างสูง เริ่มต้นที่หลายหมื่นจนถึงหลายแสนเลยทีเดียว

กาแฟ

ประเภทของเครื่องดื่ม

     Espresso จุดเริ่มต้นของเครื่องดื่มกาแฟทุกชนิดคือ espresso ภาษาอิตาลีแปลว่าด่วน (express) ก็คือ น้ำกาแฟ 1 ช็อต นำเมล็ดกาแฟบดละเอียดมาเข้าเครื่องชง ขับน้ำกาแฟออกมาในรูปของไอน้ำภายใต้ความดันสูง กรรมวิธีนี้ใช้เวลาประมาณ 18-25 วินาที 1 ช็อต ของเอสเปรสโซมีปริมาณ 1 ออนซ์ ผิวหน้าของกาแฟจะเป็นฟองครีมสีทอง ที่แวดวงกาแฟเรียกกันว่า “ครีมา” เป็นกาแฟที่แรงที่สุดสำหรับคอกาแฟพันธุ์แท้ ชาวยุโรปโดยเฉพาะอิตาลีและฝรั่งเศสนิยมเอสเพรสโซร้อนเป็นที่สุด

 
Espresso
 


Cappuccino เป็นกาแฟเอสเปรสโซที่มีการใส่นมและฟองนมในอัตราส่วนที่เท่ากัน espresso 1 ช็อต นม 1 ช็อต และฟองนม ซึ่งฟองนมเกิดจากนำนมสด (แนะนำให้เป็นนมสดพาสเจอไรซ์) สตีมที่เครื่องทำฟองนม ซึ่งมักจะมีมาให้กับ Espresso machine คาปูชิโนเป็นกาแฟสด ที่มีรสชาติกลมกล่อมกำลังดี ผู้ดื่มจะได้รับรสของกาแฟเต็มที่ผสมกับความข้นมันของนมและฟองนม จึงเป็นรสชาติที่คอกาแฟไทยนิยมมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นแบบร้อนหรือคาปูชิโนเย็น

 
Cappuccino
 


Latte เป็นกาแฟเอสเปรสโซที่เติมนมร้อนลงไป แล้วปิดหน้าด้วยฟองนมจำนวนเล็กน้อย espresso 1 ช็อต นม 2 ช็อต และฟองนม latte ก็คือกาแฟนมที่ใส่นมมากเป็นพิเศษนั่นเอง รสกาแฟจะอ่อนแต่ข้นมันด้วยนม เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบกาแฟแรงๆ หรือผู้ที่เพิ่งเริ่มดื่มกาแฟ นิยมทั้งแบบร้อนและเย็นเช่นกัน

 
Latte
 


Mocha เป็นเอสเปรสโซที่มีการผสมโกโก้และนมร้อนลงไป ก่อนที่จะปิดด้วยวิปครีม espresso 1 ช็อต นม 1 ช็อต และผงโกโก้ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชองกลิ่นและรสของช็อกโกแล็ตเจืออยู่ในกาแฟถ้วยโปรด Mocha เย็นดูเมือนจะได้รับความนิยมมากกว่า Mocha ร้อน

 
Mocha
 


Americano คือเอสเปรสโซที่ถูกทำให้เจือจางลงด้วยน้ำร้อน เพื่อทำให้ได้กาแฟรสชาติเยี่ยมเต็มถ้วย

Americano
Back to Article
 
Hot Line 087-516-0330
  • Olives
  • Feliz
  • Akbar
  • Schaerer
  • Crathco
  • Nuova
  • Rancilio
  • WestBend
  • Waring
  • Vitamix
  • Cofrimell
บริการจัดเลี้ยงนอกสถานที่ | แคเทอริ่ง | คอฟฟี่เบรค | น้ำชายามบ่าย | ค๊อกเทล | ออกร้าน | ปาร์ตี้ | เครื่องดื่ม | อาหารว่างในกล่อง (เซ๊ทอาหารว่าง)
Outside Catering Service   Catering   Coffee Break   High Tea   Cocktails   Grand Opening/Exhibition   Party   Beverage   Snack Box
COPYRIGHT © 2009 The Refresher Co., Ltd.